“เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ” เลือกเหล็กให้ถูก ใช้เหล็กให้เป็น

เมื่อก้าวสู่วงการรับเหมาคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า พื้นฐานเหล็กรูปพรรณโครงสร้าง เป็นสิ่งสำคัญ และเหล็กก็เป็นอีกหนึ่งในวัสดุก่อสร้างที่มีบทบาทค่อนข้างสูงในทุกภาคส่วนในสังคมและเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ใช้งานเหล็กเป็นส่วนประกอบ รวมไปถึงภาครัฐและภาคครัวเรือน ล้วนใช้งานเหล็กทั้งหมด แต่คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่นั้น เป็นคนในวงการเหล็กที่มีคอนเนคชั่น มีต้นทุน จึงได้เหล็กมาในราคาที่แตกต่างมากกว่าคนนอกวงการซึ่งเป็นคนส่วนน้อยที่จะซื้อมาใช้งาน เพราะพวกเขาเหล่านั้นขาดความรู้ความเข้าใจพื้นฐานของ เหล็ก ทั้ง เหล็กรูปพรรณรีดร้อน และ เหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น หรือ ไม่รู้แหล่งซื้อเหล็กหรือเลือกขนาดและปริมาณการซื้อไม่เป็น วันนี้ สตีลเบสท์บาย จึงตั้งใจนำความรู้เรื่อง พื้นฐาน เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ มาบอกต่อ ในบทความนี้

พื้นฐาน เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ เลือกเหล็กให้ถูกต้อง

หลายคนที่ไม่มีความรู้พื้นฐานคงจะคิดว่าแค่ซื้อเหล็กมาใช้งานคงจะเหมือน ๆ กัน แต่สตีลเบสท์บายขอบอกว่า จะซื้อเหล็กมาใช้งานต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจการเลือกเหล็กมาใช้งานให้ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้โครงสร้างของผู้บริโภคอยู่ได้นานยิ่งขึ้น

เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ Structural Steel ที่ได้รับความนิยมนำมาใช้งานไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้างบ้านพักอาศัย งานอาคารพาณิชย์ สะพาน งานคอนโด งานภาครัฐ คือ เหล็กเส้น, เหล็กแผ่นดำ, เหล็กตัวซี, เหล็กรางหนา, เหล็กกล่อง, เหล็กบีม, ไวร์เมช, ท่อประปา เป็นต้น

เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ เลือกซื้ออย่างไรให้ถูกต้อง

เหล็กเส้น ส่วนมากมักนำไปใช้ในงานฐานรากเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ เหล็กข้ออ้อย และ เหล็กเส้นกลม ซึ่งเหล็กเส้น มักนำไปใช้เสริมคอนกรีตสำหรับงานก่อสร้างทั่วไป เพราะเป็นงานฐานราก ไม่ว่าจะเป็นงานเสริมคอนกรีต งานถนน, งานโครงสร้างบ้าน, เสา, อาคาร, พื้น, ผนัง เรียกได้ว่า เหล็กเส้น เป็นเหล็กสารพัดประโยชน์ที่มีความสำคัญในทุก ๆ โครงสร้าง

เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bars DB) หรือ เหล็ก ข้ออ้อย

เหล็กข้ออ้อยเป็นเหล็กโครงสร้างรากฐานมาตรฐาน มอก. 24-2559 ที่มีลักษณะเป็นปล้อง ๆ คล้ายต้นอ้อย เป็นบั้ง ๆ สลับกันยาวตลอดเส้น ส่วนความยาวข้ออ้อย มีความยาวมาตรฐานคือ 10 และ 12 เมตร

“ลักษณะเป็นบั้ง ๆ สลับ มีประโยชน์อย่างไร”

• ผิวเหล็กข้ออ้อยมีรอยบั้งเป็นบั้ง ๆ สลับกัน เป็นส่วนสำคัญในหารช่วยเสริมความแข็งแรงเหล็กให้แก่โครงสร้าง โดยครีบเหล็กทำหน้าที่ช่วยในการยึดเกาะกับปูนด้วยการส่งผ่านแรงยึดเหนี่ยวเหล็กที่มีต่อคอนกรีตให้เป็นโครงสร้างเดียวกัน เป็นต้น

“สิ่งที่เสริมความแข็งแรงเหล็กข้ออ้อย คือ “คุณสมบัติ และ ชั้นคุณภาพ” 

• เหล็กข้ออ้อยที่ดีต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถรับแรงดึงและเสียดทานได้ดี ซึ่งแต่คุณสมบัติจะทำให้ได้ดีขนาดนี้ เหล็กข้ออ้อยจะต้องมีชั้นคุณภาพที่เพียงพอต่อการรับแรง หรือที่เรียกว่า “จุดคราก”
• ชั้นคุณภาพของ เส้นข้ออ้อย มีดังนี้ SD30, SD40, SD50 ซึ่ง SD เหล่านี้คือค่าบ่งชี้คุณภาพในการรับแรงดึง เช่น
  • SD30 = กำลังรับแรงดึงที่จุดครากไม่น้อยกว่า 3,000 ksc.
  • SD40 = กำลังรับแรงดึงที่จุดครากไม่น้อยกว่า 4,000 ksc.
  • SD50 = กำลังรับแรงดึงที่จุดครากไม่น้อยกว่า 5,000 ksc.

“เหล็กข้ออ้อยนิยมใช้งานตั้งแต่ขนาดเท่าไหร่?”

ข้ออ้อยนิยมนำมาใช้งานกันตั้งแต่ 4 หุน ขึ้นไป โดยมีตารางขนาดดังนี้

เหล็กเส้นกลม (Round Bars RB) คืออะไร? เหล็กเส้นกลม เป็นเหล็กโครงสร้างรากฐานมาตรฐาน มอก. 20-2559 ที่มีลักษณะผิวเรียบเกลี้ยง ไม่มีลูกคลื่น ไม่มีรอยแตกร้าว หน้าตัดกลม ซึ่งเส้นกลมจะเป็นเหล็กที่คอยทำหน้าที่ ในการเป็นตัวเชื่อมแรงยึดเหนี่ยวระหว่างเหล็กกับคอนกรีต ด้วยการงอเหล็ก เพื่อถ่ายเทแรงในการยึดเกาะให้มีกำลังมากขึ้น

“ลักษณะ กลมเรียบ ไม่มีรอยแตก มีประโยชน์อย่างไร”

มีประโยชน์ต่องานที่ไม่ต้องรับแรงมาก ๆ  แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเหล็กเสริมที่ใช้ในการเพิ่มแรงยึดเหนี่ยวต่อวัสดุได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกัน

คุณสมบัติ และ ชั้นคุณภาพ เหล็กเส้นกลม

RB มีคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน และยืดหยุ่น ผลิตด้วยเหล็กคาร์บอน หรือเหล็กกล้า จึงสามารถรับแรงดึงได้ดี มีความเหนียว ดัด โค้ง ตัดแต่ง รับน้ำหนักได้ดี โดยยังไม่แตกหักหรือผิดรูป ส่วนชั้นคุณภาพ ตามเกรดที่ใช้งาน จะใช้เหล็กเส้นกลม SR24 หรือ กำลังรับแรงดึงที่จุดครากไม่น้อยกว่า 2,400 ksc.

“เหล็ก เส้นกลม นิยมใช้งานตั้งแต่ขนาดเท่าไหร่?”

ขนาดที่ เส้นกลม นิยมใช้งานมีตั้งแต่ RB9-RB25 ใช้งานได้ตั้งแต่งานขนาดเล็กไปจนถึงงานขนาดกลาง โดยมีตารางขนาดดังนี้

สรุปแล้วเหล็กทั้งสองชนิดผู้บริโภคควรเลือกซื้ออย่างไรที่จะทำให้งานก่อสร้างของท่านไม่พังเสียหายสามารถใช้งานได้ยาวนาน สิ่งแรกที่ควรเลือกซื้อเลยคือ เหล็กเส้นต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. สามารถนำเหล็กไปตรวจสอบได้ โดยการทดสอบจะต้องถูกต้องตามมาตรฐานบวกลบไม่เกินที่กำหนด เครื่องหมายระบุบนเหล็กต้องชัดเจน ทราบกระบวนการโรงงานผลิต ชนิดประเภทเหล็ก หรือจะเป็นเลขล็อต ต้องมีครบถ้วน

เหล็ก แผ่นดำ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน

เหล็กแผ่นดำ หรือ  Hot Rolled Steel Plate มีลักษณะเป็น แผ่นสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีดำ โดยสีดำเกิดจากกระบวนการผลิตจากเหล็กม้วนดำ พื้นผิวเหล็กไม่หยาบ มีความทนทานสูง ต้านทานแรงดึงได้ดี เกรดที่ใช้งานกันแพร่หลาย คือ SS400 ตามมาตรฐาน มอก.1479-2558 มักนำมาใช้งานจำพวก งานปูพื้น, งานเชื่อม, ถังแก๊ส, อุปกรณ์ชิ้นส่วนต่อเรือ, ตู้ใส่ของ, ชั้นวางของ เป็นต้น

แล้วต้องเลือกเหล็กแผ่นดำเราจะเลือกซื้ออย่างไร? ให้เลือกใช้ซื้อเหล็กแผ่นที่มีมาตรฐาน มอก.1479-2558(HR1,HR2,SPHC) และเกรดคุณภาพที่เหมาะสมกับการใช้งาน อย่าง SS400, SPHC, SS490 หรือเลือกเหล็กแผ่นโครงสร้างทั่วไปตามมาตรฐานสากล JIS G3101/DIN/ASTM เป็นต้น

เหล็กฉาก เหล็กรูปพรรณรีดร้อน

เหล็กฉาก (Equal Angle Bar) เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน ผลิตจากเหล็กกล้าอัลลอยด์ เป็นเหล็กมุม ที่มีมาตรฐาน มอก.1227-2558 มีชั้นคุณภาพ SM400, SM490, SM520, SM540, SM570, SS400 หลายคนจะรู้ว่า เหล็กฉากมี 2 แบบ นั้นก็คือ เหล็กฉากขาเท่ากัน และเหล็กฉากขาไม่เท่ากัน คุณสมบัติเหล็กฉาก เนื้อเหล็กเรียบ มีความยืดหยุ่น ทนทานต่อการกัดกร่อน น้ำหนักเบาแต่สามารถรองรับน้ำหนักได้มากตามความหนาของเหล็ก งานที่เหล็กฉากนิยมใช้กันจะเป็นงานขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ เช่น ชั้นวางของ, เก้าอี้, รั้วบ้าน, โครงสร้างโรงงาน, โกดัง, โครงสร้างสะพาน, เสาส่งสัญญาณ เสาไฟฟ้า หรืองานที่รับแรงสั่นสะเทือน เป็นต้น

เหล็กกล่อง เหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น

เหล็กกล่อง (Steel tube) หรือเหล็กโครงหลังคา มีลักษณะเป็นท่อสี่เหลี่ยมดำตามรูปทรงดังนี้ เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า, เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส, ท่อกลมดำ ความยาวเหล็กกล่องเริ่มต้น 6 เมตร มีเกรดคุณภาพ SS400  มาตรฐาน มอก. มีทั้งบังคับ และไม่บังคับ โดยใช้มาตรฐาน มอก. 107-2561 แบ่งเป็น ท่อเหลี่ยมและท่อแบน JIS G 3466 ส่วน ท่อกลม เป็น JIS G  3444 คุณสมบัติเหล็กกล่องเราทราบกันดีว่าเป็นเหล็กที่นิยมใช้ทำโครงหลังคา เพราะมีความทนทาน โครงสร้างรับน้ำหนักขนาดกลางได้ดี พร้อมมีหน้าตัดช่วยรับแรงต้านทาน มีความยืดหยุ่น รื้อถอนดัดแปลงง่าย ไม่ก่อให้เกิดฝุ่นหรือมลพิษ เป็นต้น

เหล็ก ตัวซี เหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น

เหล็กตัวซี (Light Lip Channel) หรือ เหล็กตัว c มาตรฐาน มอก.1228-2561 เป็นเหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่นำเหล็กม้วนดำมาพับและตัดให้มีลักษณะหน้าตัดเป็นตัวอักษรตัว C มีขนาดเหล็ก 6 เมตร ยาวตลอดเส้น ลักษณะและจุดเด่นที่สังเกตได้นี้มีคุณสมบัติในการทดแทนไม้เนื้อแข็ง มีน้ำหนักเบาแข็งแรงทนทานขึ้นโครงง่าย ใช้สำหรับงานโครงสร้างทั่วไป เลือกได้ตามขนาดที่ต้องการใช้งานได้หลากหลาย เป็นต้น

เหล็ก รางหนา เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน

เหล็กรางหนา หรือเหล็กรางน้ำ (C-channel steel) มีมาตรฐาน มอก.1227-2558 เป็นเหล็กโครงสร้างรูปพรรณที่มีหน้าตัดเป็นตัวอักษรตัว U มีความยาว 6 เมตร ยาวตรงตลอดเส้น มักนำไปใช้กับงานโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานสูง และรับน้ำหนักได้มาก เช่น งานโครงสร้างรับน้ำหนัก, โกดัง, โครงหลังคาโรงงาน, งานเสา, งานบันได, รางสายไฟ, งานเดินระบบต่าง ๆ เป็นต้น

เหล็ก บีม เหล็กรูปพรรณรีดร้อน 

เหล็กบีม (Beam) มี 3 ประเภท ได้แก่ เหล็กเอชบีม, เหล็กไอบีม, เหล็กไวด์แฟรงค์, ทั้ง 3  ประเภทเป็นเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน (Hot rolled structural steel) ความยาวมาตรฐานเริ่มต้นที่ใช้ในบีม คือ  6 เมตร 9 เมตร และ 12 เมตร

• • ลักษณะ เอชบีม (H-Beam) มีรูปทรงเป็นตัว H มักใช้ในงานก่อสร้างที่ต้องใช้ความแข็งแรงทนทานในการรับน้ำหนักหรือโครงสร้างที่ต้องรับแรงบิดและแรงกด พร้อมกระจายแรงอย่างทั่วถึง
  • ลักษณะ ไอบีม (I-Beam) มีรูปทรงคล้ายตัวอักษรตัว I มักใช้ในงานก่อสร้างเฉพาะ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการรับแรงเสียดทาน แรงกระแทกได้มากกว่าบีมอื่น ๆ การนำไปใช้งานเฉพาะเจาะจง เช่น การทำคาน เสาส่งไฟฟ้า งานโครงสร้างรวม งานรางเลื่อน ตัวยกเครน รางรถไฟ และงานโครงการขนาดใหญ่ เป็นต้น
  • ลักษณะ ไวด์แฟรงค์ (Wide Flange) รูปทรงคล้ายเหล็กบีมชนิด เอชบีม แต่มีความแตกต่างกันที่สามารถสังเกตได้ นั่นคือ ปีกบนและล่างเท่ากัน ความกว้างของแผ่นเหล็กตรงกลางจะกว้างกว่าเอชบีม ด้วยลักษณะที่คล้ายกันการนำไปใช้จึงคล้าย ๆ กัน เพียงแต่งานที่ทำจะไม่ใช่งานที่ซับซ้อนมากนัก เช่น งานโครงสร้างคอนกรีต, ก่อสร้างอาคาร, งานเสา, คาน โครงถัก เป็นต้น

ใช้เหล็กให้เป็น เพื่องานก่อสร้างที่แข็งแรง

เหล็กรูปพรรณโครงสร้างถ้าเราเลือกเหล็กให้ถูก ใช้เหล็กให้เป็น จะช่วยเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพให้กับงานอย่างดีเยี่ยม

แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะไปหาซื้อได้ที่ไหน เหล็กที่ใช้เหมาะกับงานประเภทใด Steel Best Buy ขอแนะนำ ผู้เชี่ยวชาญจัดซื้อเหล็กมืออาชีพ ที่จะช่วยตอบโจทย์ทุกปัญหาด้านจัดซื้อเหล็ก เรามีทีมงานที่มีความรู้ มีระบบที่คอยจัดหาเหล็กคุณภาพ พร้อมส่งมอบตามเงื่อนไข เรียกได้ว่าหมดกังวลทุกเรื่องเหล็กที่เราไม่รู้ เพียงเพิ่มเพื่อนไลน์ @steelbestbuy เราแนะนำให้ตั้งแต่ขั้นตอนแรก ครบจบ ในที่เดียว

บริการทุกระดับ คนทั่วไปก็สั่งได้ ที่ สตีลเบสท์บาย

ที่สตีลเบสท์บาย ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่รู้เรื่องเหล็ก ก็สั่งได้ เพราะเรามีเป้าหมายอย่างชัดเจนในด้านการบริการ เพื่อลูกค้าทุกคน ให้ได้รับเหล็กคุณภาพในราคาที่ดีที่สุด

• ความรวดเร็วในการให้ใบเสนอราคาภายใน 15 นาที
• ขอใบเซอร์รับรองได้ทุกครั้งที่สั่งซื้อ พร้อมตรวจสอบมาตรฐานได้ทุกเส้น
• มีสินค้ามากกว่า 2,000 รายการ ที่เดียวครบจบเรื่องสินค้าเหล็กก่อสร้าง
• สินค้าพร้อมส่ง ไม่ต้องรอหลายวัน
• ไม่ต้องลงทะเบียน ก็สามารถเช็กราคาด้วยตนเอง 24 ชั่วโมง
• เปรียบเทียบราคาให้แล้ว จากทีมจัดซื้อมืออาชีพ
• Low cost การันตี เพราะเรารวบรวมผู้จำหน่ายและร้านเหล็กทั่วประเทศไว้ที่เรา

มองหาเหล็กโครงสร้างคุณภาพ คิดถึง สตีลเบสท์บาย

และถ้าหากมือใหม่กำลังมองหาเหล็กโครงสร้างคุณภาพ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้รับเหมา ครบ จบ ในที่เดียว ทักหาสตีลเบสท์บาย

เพราะเรามีรายการสินค้ามากกว่า 2,000 รายการ จากการเลือกแหล่งผู้จัดจำหน่ายมากกว่า 20 ร้านค้า มาช่วยในเปรียบเทียบราคาแทนผู้ซื้อ ให้ผู้ซื้อไม่ต้องยุ่งยากกับการหาราคาอีกต่อไป เพียงเพิ่มเพื่อน @steelbestbuy 

“แอด บอก รอ” ก็ได้ใบเสนอราคาภายใน 15 นาที

1. แอด เพิ่มเพื่อนไลน์ @steelbestbuy ให้ราคาที่ดีที่สุดเพราะเราเทียบให้แล้ว
2. บอก แจ้งรายการสินค้า และระบุวันที่ต้องการใช้สินค้า ให้ครบถ้วน
3. รอ แป๊บเดียว ได้รับใบเสนอราคาจากพนักงานขายได้ราคา ภายใน 15 นาที
4. ทำการสั่งซื้อและรอรับสินค้าภายในวันที่กำหนด

และสำหรับผู้อ่านท่านใด ต้องการ เช็กราคาเหล็กประจำวัน สามารถติดตามราคาได้ทุกวันที่นี่ คลิกเช็กราคา

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 061-416-7892

Facebook Messenger : SteelBestBuy

Line@ : @steelbestbuy