ในสมัยก่อนการซื้อเหล็กกล่องมีความแตกต่างจากปัจจุบันนี้อย่างเห็นได้ชัด ทั้งสถานการณ์ตามยุคสมัย บริบทช่วงเวลาของเศรษฐกิจที่ทำให้ทั้ง ร้านขายวัสดุก่อสร้าง โรงกลึงเหล็ก ตัวแทนจำหน่ายมีน้อย จึงยากต่อการผลิตและขนส่งสินค้า ผู้สนใจเหล็กจึงหันมานำเข้า “เหล็กกล่อง” จากประเทศที่มีฐานกำลังผลิตมากกว่า ก็คือ ประเทศจีน และด้วยเหตุนี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้สนใจเหล็กนำเหล็กเข้ามาในประเทศมีการตั้งราคาจำหน่ายตามราคาตลาดโลก เนื่องจากวัตถุดิบและรอบการผลิตมีมูลค่าขึ้นลง ตามสภาพเศรษฐกิจของประเทศผู้ผลิต ซึ่งวันนี้สตีลเบสท์บายจะอธิบายถึงสาเหตุที่ทำไม ราคาเหล็กกล่อง ผันผวน ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง? ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน
ราคาเหล็กกล่อง ผันผวน ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?
เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยน แน่นอนว่า การซื้อเหล็กเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย หากย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองมีเพียงร้านค้าวัสดุก่อสร้างและตัวแทนจำหน่าย เมื่อผ่านเวลาหลังสงครามโลกไปมีการพัฒนา ซึ่งขณะนั้น มีผู้ผลิตโดยตรงที่เป็นของไทยเพิ่มขึ้นทำให้ผู้ซื้อมีกำลังซื้อเลือกได้หลากหลายขึ้น จนปัจจุบัน มีช่องทางการจำหน่ายเหล็กกล่องที่เยอะขึ้นทั้งออนไลน์และออฟไลน์บางร้านค้าโรงงานก็มีออฟชันเสริมในการจัดส่งสินค้าถึงหน้างาน ส่งผลให้ปัจจุบันนี้มีความสะดวกขึ้นมากจากเดิม สั่งเหล็กได้ด้วยตนเองเพียงมีอินเทอร์เน็ต
และเมื่อความทันสมัยเข้ามาแทนที่จึงทำให้บริการการปรับตัวในด้านราคาเหล็กก็ยังมีความผันผวน แม้ประเทศไทยจะมีโรงงานเป็นคนตนบ้างแล้ว แต่วัตถุดิบบางส่วนยังจะต้องนำเข้ามาเนื่องจากบางสถานการณ์เกิดสภาวะเหล็กหรือวัตถุดิบขาดตลาดทั่วโลก นอกเหนือจากที่เล่ามาแล้วยังมีปัจจัยที่ทำให้เหล็กกล่องผันผวนกระทบต่อราคาเหล็กกล่อง ดังนี้
- ราคากลางจากตลาดโลก เพราะไทยมีการพึ่งพาเหล็กจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ จึงมีหน่วยงานที่เป็นตัวกลางที่คอยกำหนดราคาสินค้านำเข้ามาเป็นราคากลางของโลก ถ้าราคาในตลาดโลกมีการปรับตัวขึ้นลง เหล็กในประเทศก็จะปรับตามราคาโลกเช่นกัน
- อุปสงค์และอุปทาน ตามห่วงเศรษฐกิจสินค้าเหล็กย่อมมีกลไกตลาดทั่ว ๆ ไปดังสินค้าอุปโภคบริโภค เมื่อมีความต้องการเหล็กกล่องที่สูง แต่กำลังการผลิตเหล็กมีจำนวนจำกัด จึงส่งผลให้ราคาเหล็กปรับตัวสูงมากขึ้นตาม แต่กลับกันหากความต้องการซื้อน้อยหรือลดลง ราคาก็จะชะลอตัวปรับลงเช่นกัน เรียกได้ว่าผู้ที่มีความต้องการซื้อจะต้องติดตามราคาวันต่อวันเลยทีเดียว
- ต้นทุนการผลิต แน่นอนว่าทุกๆอย่างบนโลกล้วนมีต้นทุน เช่นเดียวกับเหล็กกล่อง ตัวชี้วัดด้านราคาของ เหล็กกล่อง ก็คือต้นทุนการนำมาผลิต เช่น ราคาพลังงาน ราคาวัตถุดิบ ราคาแรงงาน ราคาขนส่ง ล้วนส่งผลต่อ ราคาเหล็กกล่อง ยิ่งต้นทุนสูง ราคาก็จะปรับให้สูงตามต้นทุนเช่นกัน
- สภาพเศรษฐกิจและการเมือง เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมทั้งในและนอกประเทศราคาเหล็กก็จะแปรผันตาม หากเศรษฐกิจดี ผู้ซื้อก็จะมีกำลังซื้อมากขึ้นแม้ราคาจะ ขึ้นหรือลงก็ตาม ในขณะเดียวกันหากมีสงครามการเมืองเกิดขึ้น ย่อมมีผลที่ไม่ดีต่อวัตถุดิบและราคาเหล็ก
- นโยบายของรัฐบาลภายในประเทศ แน่นอนว่าในทุก ๆ ประเทศมีกฎหมายการนำเข้าสินค้า ที่คอยช่วยควบคุมราคาให้อยู่ในเกณฑ์ เช่น มาตรการควบคุมการนำเข้าและส่งออก ภาษีนำเข้า มาตรการสำหรับผู้ผลิตและนายทุน เพื่อให้สินค้าไม่ล้นตลาด เป็นต้น
- การนำเหล็กกล่องไปเก็งกำไร จะมีผู้ที่ซื้อเหล็กไปจำนวนมาก ๆ เมื่อถึงจุดที่ราคามีการปรับขึ้นและขาดตลาดอย่างหนัก ผู้ที่ซื้อจะนำเหล็กมาปล่อยขายในราคาที่สูง เพราะช่วงจังหวะนั้น เหล็กเป็นที่ต้องการอย่างมาก
และด้วยเหตุนี้ปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงปัจจัยที่มีผลต่อราคาเหล็กกล่องไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ผู้ซื้อเหล็กกล่องควรติดตามอัปเดตสถานการณ์ปัจจุบันอยู่ตลอด เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยประการตัดสินใจซื้อเหล็กกล่อง
ราคา เหล็กกล่อง แต่ละเจ้า แตกต่างกันหรือไม่?
สตีลเบสท์บายสังเกตเห็นปัญหาที่พบส่วนมากในเรื่องเหล็กที่เจอบ่อย ๆ คือ ราคาที่ผันผวน จึงมีการหาซื้อแหล่งที่จำหน่ายเหล็กไว้หลาย ๆ ร้านเพื่อทำการเปรียบเทียบราคาแต่ละเจ้า เนื่องจากแต่ละเจ้ามีความแตกต่างกันอีกทั้งแข่งขันทางด้านราคา เพื่อให้ลูกค้าซื้อเหล็กของตน เรียกได้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดในวงการผู้ขายเหล็กก็ว่าได้ แต่นอกจากราคาเหล็กกล่องที่แข่งขันด้านราคาแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่นอีกหลายประการ ดังนี้
- ผู้ขายไม่ได้เป็น ผู้ผลิตจึงมีต้นทุน จากการรับเหล็กจากโรงงานทั้งในและนอกประเทศ โดยที่โรงงานในประเทศ ราคาจะถูก เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนการขนส่งนำเข้ามา ในขณะที่เหล็กนำเข้า ราคามักจะสูงเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในส่วนของ ค่าขนส่ง ภาษีนำเข้า และอัตราเงินของประเทศช่วงนั้น ๆ
- ยี่ห้อผู้ผลิตเหล็กผู้ผลิต แต่ละโรงงานมีมาตรฐานและต้นทนการใช้กำลังผลิตที่ไม่เหมือนกัน จึงส่งผลให้ราคาเหล็กมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
- มาตรฐานการผลิต หากเป็นเหล็กที่ได้มาตรฐาน มอก. ราคามักจะสูง เพราะได้รับการรับรองว่าเหล็กมีความปลอดภัยใช้งานได้จริง ส่วนเหล็กทั่วไป ราคาจะถูกกว่า เหล็ก มอก. ก็จริง แต่คุณภาพอาจไม่เทียบเท่าสินค้าที่ได้รับการรับรอง เป็นต้น
- ขนาดและความหนาของเหล็กกล่อง ยิ่งสั่งเหล็กที่มีขนาดใหญ่และหนามากแสดงว่าประสิทธิภาพในการรับน้ำหนักก็จะมากขึ้นทำให้ราคาเหล็กกล่องสูงขึ้นเช่นกัน
ดังนั้นหากต้องการเปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ ที่ควรศึกษาและพิจารณาให้ถี่ถ้วนดังที่กล่าวด้านบน เพื่อประเมินราคาที่เหมาะสมต่อการนำไปใช้งานตามความต้องการ
ขนาด และ ราคา เหล็กกล่อง ที่ SBB
เหล็กกล่องสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
- เหล็กกล่องสี่เหลี่ยม (Square Steel Tube) หรือแป๊บเหลี่ยม, ท่อเหลี่ยม, แป๊บโปร่ง
- เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมแบน (Rectangular Steel Tube) หรือ เหล็กกล่องแบน, แป๊บแบน, เหล็กสี่เหลี่ยมแบน, ท่อแบน
เนื่องจากเหล็กกล่องมีหลายขนาดและความหนาที่แตกต่างกันจึงทำให้การนำไปใช้ให้ถูกต้องตามความเหมาะสมโดยสามารถแยกเหล็กกล่องไปตามความต้องการใช้งานได้ดังต่อไปนี้
- เหล็กกล่อง ขนาด 1×1 นิ้ว มักนิยมนำมาใช้งานโครงสร้างที่มีขนาดเหล็ก ได้แก่
- งานตกแต่งต่าง ๆ โครงไฟเหล็กกล่อง แจกันเหล็กกล่อง กรอบรูปเหล็กกล่อง
- ชั้นวางของอเนกประสงค์
- เก้าอี้เหล็กดีไซน์หลากหลาย
- ตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้า
- บานประตูหน้าต่าง
- บานเลื่อนประตูบ้าน
2. เหล็กกล่อง ขนาด 2×4 นิ้ว นิยมนำมาใช้งานโครงสร้างที่รองรับน้ำหนักได้ดี
- งานโครงสร้างทั่วไป
- งานโครงแปหลังคา
- ตะแกรงประตู
- โครงคานสะพาน
3. เหล็กกล่อง ขนาด 3×1 นิ้ว นิยมนำมาใช้งานโครงสร้างขนาดกลาง
- โครงเหล็กชั้นวางของ
- โครงบันได
- โครงนั่งร้าน
4. เหล็กกล่อง ขนาด 4×4 นิ้ว นิยมนำมาใช้งานโครงสร้างขนาดกลาง
- โครงเหล็กชั้นวางของขนาดใหญ่
- โครงประตูรั้วขนาดกลาง
- โครงหลังคาบ้าน knock down
5. เหล็กกล่อง ขนาด 6×6 นิ้ว นิยมนำมาใช้งานก่อสร้างทุกประเภท
- งานโครงสร้างขนาดใหญ่
- โครงหลังคาขนาดใหญ่
- โครงประตูหน้าต่างขนาดใหญ่
หากต้องการรู้จักขนาดและราคาเหล็กกล่อง ที่ สตีลเบสท์บายมีเจาะลึกในบทความอื่น ๆ สามารถติดตามได้ที่นี่
ปัจจุบัน สตีลเบสท์บายมีการอัปเดต ราคาเหล็กกล่อง ให้กับผู้ที่สนใจเก็งราคารายวัน สามารถทำได้ด้วยตนเอง ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งให้พนักงานขายแจ้งเมื่อมีราคาเปลี่ยนแปลง เนื่องจากปัจจัยภายนอกของปรับเปลี่ยนตามกลไกตลาด ให้สำหรับผู้ที่ต้องการทราบราคาเหล็กอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะเป็นผลดีกับผู้บริโภคเป็นอย่างมากที่จะได้ราคาที่เป็นธรรมเพราะถูกต้องตามกลไกการตลาดของเหล็ก ไม่ใช่เหล็กที่เก็บไว้นานแล้วนำมาขาย โดยสตีลเบสท์บาย ให้ผู้ซื้อสามารถเช็คราคาได้คร่าว ๆ ดังนี้ ได้มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าถึงแนวโน้มของราคาที่เปลี่ยนแปลงให้ตลอด
เช็ก ราคาเหล็กกล่อง ประจำวันที่ 11 มิถุนายน 2567
1.ท่อ เหล็กกล่องขนาด 2×1 นิ้ว หนา 2.1 มม. น้ำหนัก 6.95 ราคาต่อกิโลกรัมอยู่ที่ 26.91
2.ท่อ เหล็กกล่องขนาด 3×1 1/2 นิ้ว หนา 1.2 มม. น้ำหนัก 10.70 ราคาต่อกิโลกรัมอยู่ที่ 27.38
3.ท่อ เหล็กกล่องขนาด 4×2 หนา 1.2 มม. น้ำหนัก 14.30 ราคาต่อกิโลกรัมอยู่ที่ 27.41
ส่วนที่แสดงเบื้องต้นนี้เป็นเพียงการแสดงราคาของเหล็กกล่องแสดงถึงความแตกต่างของราคาตามขนาดความหนา ดังนั้นหากต้องการทราบราคาเพิ่มเติม กรุณา เช็ก ราคา เหล็กกล่อง และ ราคา เหล็กกล่อง กัลวาไนซ์ เพิ่มเติมคลิกเลย !
เช็ก ราคาเหล็กกล่อง พร้อมสั่งซื้อเหล็กคุณภาพได้ที่ SBB
และเพื่อให้ผู้ซื้อได้รับบริการที่ดีเยี่ยมเรามีบริการจำหน่ายเหล็กกล่องทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น ท่อกลม ท่อแบน เหล็ก กล่อง กัลวาไนซ์ หากต้องการ เช็กราคา เหล็กกล่อง ประจำวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และที่สำคัญเพื่อให้ผู้ซื้อสะดวกมากขึ้นหากต้องการใช้สินค้าเร่งด่วน สตีลเบสท์บายมีบริการ SBB Prompt สั่งก่อนเที่ยง ส่งสินค้าวันถัดไป ช่วยตอบโจทย์ลูกค้าที่จะใช้งานเหล็ก ภายใน 1-2 วัน
บริการ SBB Prompt สั่งก่อนเที่ยง ส่งสินค้าวันถัดไป
คือบริการพิเศษของทางสตีลเบสท์บาย ที่ตอบสนองการใช้งานของลูกค้ากรณีต้องการใช้สินค้าแบบเร่งด่วนโดยลูกค้าสั่งซื้อและชำระเงินก่อน เวลา 12.00 น. เราจัดส่งสินค้าในวันถัดไปทันที
(เฉพาะเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล)
โดยข้อดีของบริการของเรามีดังต่อไปนี้
- ได้ใบเสนอราคา ภายใน 15 นาที
- สั่งก่อนเที่ยง ส่งสินค้าวันถัดไป
- เปรียบเทียบราคาเหล็ก ได้ราคาก่อนใคร
- จัดส่งไว งานเสร็จเร็วไม่ต้องรอของนาน
*เงื่อนไขการจัดส่งเฉพาะสินค้าที่มีเครื่องหมาย Logo SBB Prompt เท่านั้น
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่